รู้จักกับ Liveness Detection เทคโนโลยีที่ช่วยให้การลงทะเบียนซิมใหม่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

 

จากสถานการณ์การก่ออาชญากรรมไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น เช่น การเปิดบัญชีม้าหรือการปลอมแปลงตัวตน ทำให้ล่าสุด (18 สิงหาคม 2568) กสทช. ได้เริ่มบังคับใช้มาตรการใหม่ ที่ให้ผู้ลงทะเบียนซิมการ์ดต้องยืนยันตัวตนด้วยเทคโนโลยี Liveness Detection ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการป้องกันการสวมรอย บทความนี้ #วันทูออล จะพาไปทำความรู้จักกับเทคโนโลยีนี้ให้มากขึ้น

ทำไมต้องมี Liveness Detection?

ในอดีต การยืนยันตัวตนแบบดั้งเดิม เช่น การใช้รหัสผ่านหรือ PIN มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกคาดเดาหรือขโมย แม้แต่การใช้ไบโอเมตริกซ์ อย่าง การสแกนใบหน้าแบบทั่วไป ก็ยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งที่สแกนนั้นเป็นคนจริง ภาพถ่าย หรือวิดีโอปลอม

Liveness Detection จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหานี้ โดยเป็นเทคโนโลยีที่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ใช้งานเป็น "คนจริงที่มีชีวิตอยู่" ไม่ใช่ภาพถ่ายหรือข้อมูลปลอมที่ถูกสร้างขึ้น การทำงานของเทคโนโลยีนี้อาศัยการวิเคราะห์สัญญาณทางชีวภาพและการเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ เช่น การกระพริบตา การขยับศีรษะ หรือรอยยิ้ม เพื่อยืนยันตัวตนอย่างแม่นยำ

"วิเคราะห์ – ประมวลผล – ตรวจจับ" เบื้องหลังการทำงานของ Liveness Detection

  • การวิเคราะห์สัญญาณทางชีวภาพ (Biometric Signals): ระบบจะตรวจจับการเคลื่อนไหวเล็กๆ ของใบหน้า เช่น การกระพริบตาหรือการขยับปาก เพื่อยืนยันว่าเป็นมนุษย์จริงๆ ไม่ใช่ภาพนิ่ง
  • การประมวลผลภาพและวิดีโอ (Image & Video Analysis): ด้วยการใช้อัลกอริทึม Machine Learning วิเคราะห์ความลึกของใบหน้า แสงและเงา เพื่อแยกความแตกต่างระหว่างคนจริงกับภาพที่ถูกสร้างขึ้นได้อย่างแม่นยำ
  • การทดสอบแบบเรียลไทม์ (Challenge-Response): ระบบอาจขอให้ผู้ใช้งานทำท่าทางง่ายๆ เช่น หันศีรษะ หรือกระพริบตาตามคำสั่ง เพื่อตรวจสอบการตอบสนองแบบเรียลไทม์และเพิ่มความปลอดภัย

และด้วยความสามารถในการพิสูจน์ความเป็น 'คน' ปัจจุบัน Liveness Detection ได้ถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางในหลายวงการ เช่น

  • ธนาคารและการเงินออนไลน์: ยืนยันตัวตนลูกค้าในการทำธุรกรรม ลดความเสี่ยงจากการปลอมแปลงตัวตน
  • สมาร์ตโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์: ปลดล็อกอุปกรณ์ด้วยใบหน้าที่เป็นของจริง เช่น Face ID เพิ่มความปลอดภัยเหนือรหัสผ่านหรือ PIN
  • ระบบรักษาความปลอดภัยและอาคาร: ตรวจสอบบุคคลก่อนเข้าพื้นที่สำคัญ เช่น ออฟฟิศ ห้องเซิร์ฟเวอร์ โรงงาน หรือศูนย์ข้อมูล โดยผสานกับกล้องวงจรปิดและระบบ Access Control
  • บริการออนไลน์ที่ต้องยืนยันตัวตน: เช่น แอปส่งอาหาร หรือแพลตฟอร์มที่ต้องยืนยันตัวตนผู้ใช้งานก่อนทำธุรกรรม

จะเห็นได้ว่า Liveness Detection ไม่ได้เป็นเพียงแค่เทคโนโลยีที่ช่วยยืนยันตัวตน แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยยกระดับความปลอดภัยในโลกดิจิทัล ซึ่งการบังคับใช้เทคโนโลยีดังกล่าวนี้กับมาตรการซิมการ์ดใหม่ของ กสทช. นับเป็นอีกจุดเริ่มต้นที่แสดงให้เห็นถึง ความสำคัญของการนำเทคโนโลยีมาใช้ป้องกันอาชญากรรมไซเบอร์ที่ซับซ้อนขึ้นในปัจจุบัน

#LivenessDetection #CyberSecurity #AI #1toAll #วันทูออล #1toAllTransformation #LeadingtheFuture #NextGenTelecomOperator

 
Alex Alun