สรุป 5 เทคโนโลยีที่จะถูกเล็งเป้าโดยอาชญากรไซเบอร์ในปี 2025
แนวโน้มความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในปี 2025
ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
- แต่เดิม AI ถูกใช้หลักๆ สำหรับการทำฟิชชิ่ง (phishing) แบบจำนวนมาก
- ปัจจุบัน AI ได้ถูกนำไปใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเหยื่อ ช่วยในการหาช่องโหว่ และสร้าง/ปรับแต่งโค้ดที่เป็นอันตราย
- คาดการณ์ว่าในปี 2025 จะมีเครื่องมือการแฮ็กที่ประกอบด้วยโมดูล AI มากขึ้น
- เครื่องมือเหล่านี้จะสแกนหาช่องโหว่ในระบบ วิเคราะห์ข้อมูล และจดจำข้อความได้
- การรั่วไหลของข้อมูลอาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากพนักงานในบริษัทใช้ AI โดยที่นายจ้างไม่ทราบ
⚠️ ภัยคุกคามด้านความปลอดภัยไซเบอร์กำลังพัฒนาไปพร้อมกับเทคโนโลยี AI ทำให้มีความซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น โปรดเตรียมพร้อมรับมือกับความเสี่ยงใหม่ๆ ในอนาคตอันใกล้นี้
บล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล
- คาดว่าจะมีการโจมตีที่มุ่งเป้าไปยังผู้ถือครองสินทรัพย์คริปโตเคอร์เรนซีเพิ่มมากขึ้น
- จะมีการพัฒนาและแพร่กระจายของรูปแบบการหลอกลวงใหม่ๆ
- อาชญากรไซเบอร์จะมุ่งเน้นการค้นหาช่องโหว่ในระบบที่เชื่อมต่อกับสกุลเงินดิจิทัล
- ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นของคริปโตเคอร์เรนซี แพลตฟอร์มใหม่ๆ สำหรับการฟอกเงินมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น
⚠️ ภัยคุกคามด้านความปลอดภัยในวงการสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังทวีความรุนแรงขึ้น ผู้ลงทุนและผู้ใช้งานควรเพิ่มความระมัดระวัง และติดตามข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการหลอกลวงรูปแบบใหม่อย่างต่อเนื่อง
อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT)
- จำนวนอุปกรณ์ IoT ที่เพิ่มขึ้นกำลังเพิ่มความเสี่ยงทั้งต่อผู้บริโภคและธุรกิจ
- อาชญากรไซเบอร์มักเล็งเป้าไปที่อุปกรณ์ที่มีการรักษาความปลอดภัยต่ำและช่องโหว่ในโปรโตคอลข้อมูล
- อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งเชิงอุตสาหกรรม (IIoT) กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยอย่างยิ่ง
- หากถูกโจมตี อาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตและโครงสร้างพื้นฐาน
- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีการโจมตีระบบ IoT เพิ่มขึ้นทั้งในภาคผู้บริโภคและอุตสาหกรรม
- อาชญากรไซเบอร์กำลังให้ความสนใจกับอุปกรณ์ต่อพ่วง เช่น เซ็นเซอร์และตัวควบคุมต่างๆ
⚠️ การขยายตัวของเทคโนโลยี IoT นำมาซึ่งความสะดวกสบาย แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม ผู้ใช้งานควรให้ความสำคัญกับการตั้งค่าความปลอดภัยของอุปกรณ์ IoT และอัปเดตระบบอย่างสม่ำเสมอ
เทคโนโลยีคลาวด์
- ระบบนิเวศคลาวด์มีความซับซ้อนมากขึ้นและต้องให้สิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลแก่ผู้ใช้หลายราย รวมถึงบุคคลที่สาม ทำให้ความเสี่ยงต่อการโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มสูงขึ้น
- บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องเสริมความแข็งแกร่งของมาตรการรักษาความปลอดภัย ไม่เฉพาะในระบบของตนเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงซัพพลายเออร์และพาร์ทเนอร์ด้วย
- ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าในปี 2025 อาชญากรไซเบอร์จะมุ่งเน้นไปที่ผู้ให้บริการคลาวด์มากขึ้น
- เป้าหมายคือการเจาะระบบคลาวด์เพื่อขโมยข้อมูล—ซึ่งอาจตามมาด้วยการเรียกค่าไถ่
- มีการพัฒนาวิธีการโจมตีที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการใช้ปัญญาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือ
⚠️ ด้วยการพึ่งพาบริการคลาวด์ที่เพิ่มขึ้นในทุกภาคส่วน ความปลอดภัยของระบบคลาวด์จึงกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องได้รับการดูแลอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะการรักษาความปลอดภัยตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน องค์กรควรเตรียมพร้อมรับมือกับภัยคุกคามที่ซับซ้ อนขึ้นในอนาคต
ระบบขนส่งอัตโนมัติ
- การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของระบบขนส่งกำลังเร่งตัวขึ้น โดยคาดว่าตลาดยานยนต์อัตโนมัติจะเติบโตขึ้น 6 เท่าภายในปี 2032
- อย่างไรก็ตาม การโจมตีทางไซเบอร์ที่มุ่งเป้าไปที่จุดอ่อนในระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ เซ็นเซอร์ กล้อง ไลดาร์ และเกตเวย์ IoT กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- การโจมตีเหล่านี้สามารถส่งผลร้ายแรงต่อบุคคลและบริษัทที่พึ่งพายานพาหนะอัตโนมัติสำหรับการขนส่งสินค้าหรือผู้โดยสาร
- ภายในปี 2025 การโจมตีที่มุ่งเป้าไปที่ระบบยานยนต์อาจแพร่หลายมากขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคลและทำลายระบบสำคัญ
ข้อมูลนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความปลอดภัยทางไซเบอร์ในอุตสาหกรรมยานยนต์อัตโนมัติที่กำลังเติบโต และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้